โปรดระวังสินค้าเลียนแบบ

หัวเชื้อคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ ชนิดเข้มข้น 100% เต็ม
วัตถุดิบนำเข้า จากสหรัฐอเมริกา 100% ตรา เพอร์เฟค กรีน (Perfect Green)

www.chl100.com © E-mail : admin@chl100.com โทรศัพท์ : 0848695724 (Line ID) 0848695724
สมาชิกตัวแทนจำหน่าย บ้านสมุนไพรชัยมงคล : สินค้าจัดส่งฟรี EMS ทั่วประเทศ

 
 
chl100.com ยินดีต้อนรับ
Visitors today
 
แถบเมนู
   หน้าหลัก
   แนะนำบริษัท
   แนะนำสินค้า
   คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100% คืออะไร
   คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ในทางการแพทย์
   วิธีสังเกตุคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100%
   DSG ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง
   คำถามที่พบบ่อยๆ
   ข่าวสาร-กิจกรรม
   เว็บบอร์ด
การสั่งซื้อ-ชำระเงิน-แจ้งชำระเงิน
   สั่งซื้อสินค้า
   วิธีการสั่งซื้อสินค้า
   วิธีการชำระเงิน
   แจ้งชำระเงิน
   ติดต่อเรา
มุมสำหรับสมาชิก
   เช็คเมล์ (Webmail)
   ตรวจสอบสายงาน
   สมัครสมาชิก
คำแนะนำ

ไม่ต้องสมัครเป็นสมาชิก
ก็สามารถสั่งซื้อได้ค่ะ

โทรเลยค่ะ
0651181716
0848695724

Line ID : 0848695724

เอกสารที่เกี่ยวข้อง
สมาชิกตรวจสอบสายงาน
เช็คสถานะจัดส่ง

รายชื่อจัดส่งล่าสุด(จากบน>ล่าง)

     
 
รายชื่อสมาชิกใหม่
     
ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : ชลดา Tel & Line : 0848695724

หัวเชื้อคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ชนิดเข้มข้น 100% เต็ม :: chl100.com

"ระวังสินค้าเลียนแบบ" หัวเชื้อคลอโรฟิลล์ชนิดเข้มข้น 100% เต็ม จาก สหรัฐอเมริกา ( USA.)
ต้อง เพอร์เฟคกรีน (Perfect Green) เท่านั้น
และต้องซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่มีรหัสสมาชิกถูกต้องตรวจสอบได้ จึงจะมั่นใจว่าได้
" ของแท้ "

** ต้องหมั่นออกกำลังกาย และรับประทานอาหาร ให้ครบ 5 หมู่อยู่เสมอ

cc คำเตือน cc

หัวเชื้อคลอโรฟิลล์ของแท้ ต้องซื้อจากสมาชิกตัวแทนจำหน่าย
ที่สามารถตรวจสอบรหัสสมาชิกได้เท่านั้น หากผู้ขายไม่มีรหัสสมาชิกให้ตรวจสอบ

**โปรดระวังของเลียนแบบ**

ทางบริษัท * ไม่มีเรทราคาส่ง* (เช่น เรทยกลัง,เรท 1,000 ขวด)
ซึ่งสินค้าจะขายผ่านสมาชิกราคาเดียวกันทั่วประเทศ หากขายต่ำกว่าราคา ถือว่ามีความผิด
ซึ่งทางบริษัทเองจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น

หัวเชื้อคลอโรฟิลล์ชนิดเข้มข้น 100% ของแท้ จะต้องไม่มีสารประกอบอื่นใดเลย
นอกจากสารคลอโรฟิลล์เพียงอย่างเดียว จึงจะเรียกได้ว่าคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์เข้มข้น 100%

**กรุณาอ่านที่ฉลากให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ**

 
 
 

 

คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100% จากอัลฟัลฟ่า คืออะไร??

        ได้มีการวิเคราะห์พืชมากกว่า 6,000 ชนิด ในที่สุดก็ค้นพบว่า คลอโรฟิลล์จากต้นอัลฟัลฟ่า ให้สารอาหารที่เยอะที่สุด จึงนำมาใช้เป็นสมุนไพร อุดมไปด้วยสารอาหาร ยังมีสารคลอโรฟิลล์สูง เป็นพืชที่ให้เอสโตรเจนธรรมชาติ รวมไปถึง เอนไซม์ที่จำเป็นอีก 8 ชนิด ที่สามารถต้านสารพิษต่างๆได้ดีกว่าพืชชนิดอื่นๆ

เช่น ไอโอลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมไธโอนีน ทรีโอนีน ฟินิลอะลานีน ทริปโตฟาน และ วารีน เป็นกรดอมิโนที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อสร้างเซลล์ใหม่[1][2]

และอัลฟัลฟ่ามีไฟเบอร์จากธรรมชาติอยู่สูงมาก และยังมีประโยชน์ในการช่วยฟื้นฟูภาวะลำไส้อ่อนแอ ช่วยในการลำเลียงของเสียออกจากระบบได้เป็นอย่างดี จึงทำให้หลอดลำไส้มีสุขภาพที่ดี[3] และในสหรัฐอเมริกาได้แนะนำให้ใช้อัลฟัลฟ่าในการรักษาภาวะโลหิตจาง[2]

 

     

อัลฟัลฟ่า  ชื่อวิทยาศาสตร์ Medicago sativa L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE)[1] เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียตะวันตกและในแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง จึงได้รับการขนานนามว่าคือ “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล” (AL-FAS-FAH-SHA)[2] หรือเป็น “บิดาของอาหารทุกชนิด” (Father of all foods)[4]

ลักษณะของอัลฟัลฟ่า

  • ต้นอัลฟัลฟ่า จัดเป็นพืชตระกูลถั่วมีฝักที่มีลำต้นสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร เจริญเติบโตได้ในแถบทุกอากาศทั่วโลก ลำต้นมีระบบรากที่มหัศจรรย์ เพราะในบางพื้นที่รากของต้นอัลฟัลฟ่าสามารถชอนไชลงไปได้ลึกกว่า 130 ฟุต จึงสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้มากและบริสุทธิ์กว่าพืชอื่น ๆ อีกทั้งต้นอัลฟัลฟ่าเองก็จะไม่สะสมสารพิษอีกด้วย

สารอาหารในต้นอัลฟัลฟ่า

  • มีเอนไซม์ที่จำเป็น 8 ชนิด ที่สามารถต้านสารพิษต่างๆได้ดีกว่าพืชชนิดอื่นๆ เช่น ไอโอลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมไธโอนีน ทรีโอนีน ฟินิลอะลานีน ทริปโตฟาน และ วารีน เป็นกรดอมิโนที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อสร้างเซลล์ใหม่ [3]
  • มีสารซาโปนิน ซึ่งมีคุณสมบัติเดียวกับที่พบในโสม ช่วยขับถ่ายสารพิษ ทำความสะอาดโลหิตและหลอดเลือด ช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น [3][4]
  • มีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ [3][4][5]
  • แร่ธาตุและวิตามินอื่นๆมากมาย เช่น แคลเซียม วิตามิน C,B6,B12,A,K เกลือแร่ ฟอสฟอรัส,โปรแตสเซียม,สังกะสี,เซเลเนียม[3][4]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของอัลฟัลฟ่า

  • สารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ของต้นอัลฟัลฟ่ามีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิง จึงมีการนำมาใช้เป็นฮอร์โมนทดแทนในหญิงที่ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น การนำมาใช้ในหญิงที่ได้ทำการผ่าตัดเอามดลูกออก เป็นต้น [1]
  • สารในกลุ่มซาโปนินของต้นอัลฟัลฟ่ามีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลด้วยการเพิ่มการนำคอเลสเตอรอลไปใช้ในการสร้างน้ำดีในตับ และยังออกฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มกันของเกล็ดเลือด จึงช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดอันเนื่องมาจากไขมันได้ และสารซาโปนินยังสามารถช่วยฆ่าเชื้อราจำพวกแคนดิดา โดยสารดังกล่าวจะไปจับกับเซลล์เมมเบรนของเชื้อรา และทำให้เชื้อราตาย [1]
  • ธาตุแมงกานีสที่อยู่ในอัลฟัลฟ่าสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ [1]
 
เอกสารอ้างอิง (อัลฟัลฟ่า)
  1. เครือข่ายความร่วมมือบริการเภสัชสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.  “อัลฟัลฟ่า”.  (วราลักษณ์ รวยสูงเนิน).  อ้างอิงใน: www.pharm.su.ac.th.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: drug.pharmacy.psu.ac.th.  [19 ม.ค. 2014].
  2. สำนักงานเกษตรอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี.  “อัลฟาลฟา บิดาแห่งอาหารทั้งปวง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: khaokhitchakut.chanthaburi.doae.go.th.  [19 ม.ค. 2014].
  3. สุขภาพดีดีดอทคอม.  “Alfalfa คืออะไร”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.healthdd.com.  [19 ม.ค. 2014].
  4. ครูบ้านนอก.  “อัลฟัลฟา หญ้ามหัศจรรย์”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.kroobannok.com.  [19 ม.ค. 2014].
  5. บ้านสมุนไพร.  “อัลฟัลฟา (Alfalfa) กับบทบาทอาหารเสริม”.  อ้างอิงใน: นพ.จรัสพล รินทระ.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.bansamonprai.com.  [19 ม.ค. 2014].
  6. อัลฟัลฟ่า คืออะไร”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.ffcnulife.com.  [19 ม.ค. 2014].
 
     



 

อ้างอิง จากหนังสือ คลอโรฟีลล์บริสุทธิ์ อาหารอายุวัฒนะ
เรียบเรียงโดย ดร.สังสิทธิ์ ศรีสุคนธ์ และ พญ.ชุดา ศรีสุคนธ์

          ด้วยสูตรโครงสร้างทางเคมีของคลอโรฟิลล์และเม็ดเลือดแดง เหมือนกันทุกประการ ยกเว้นตรงกลางซึ่งคลอโรฟิลล์มีอะตอมของธาตุแมกนีเซี่ยม ส่วนเม็ดเลือดแดงเป็นอะตอมของธาตุเหล็ก จากตรงจุดนี้เองที่ทำให้คลอโรฟิลล์ถูกเรียกว่า“เลือดของพืช” ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้หาทางนำวิธีการใช้คลอโรฟิลล์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อนำประโยชน์ส่วนที่ดีที่สุดของคลอโรฟิลล์มาบำรุงสุขภาพ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับเลือด และผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มากมาย สรุปตรงกันออกมาว่า คลอโรฟิลล์สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ดี

     

      

 

..ทุกวันนี้เราต้องเผชิญกับสารพิษรอบตัว  ทั้งที่มาจาก..
มลพิษในอากาศ  อาหาร  และสารเคมี  แต่เราไม่เป็นอะไรเพราะระบบภูมิคุ้มกันในตัวยังแข็งแรง และยังมีอวัยวะที่กำจัดสารพิษ เช่น ผิวหนัง ไต และลำไส้ทำงานเป็นปกติ  แต่ถ้าของเสียสะสมในเลือดเป็นจำนวนมาก ทำให้อวัยวะกำจัดสารพิษเหล่านั้นทำงานได้ไม่เต็มที่ สารพิษก็จะออกฤทธิ์ สุขภาพก็จะเสื่อม เกิดโรคต่าง ๆ หรือโรคเสื่อมของร่างกายนั่นเอง

          ธาตุที่สำคัญที่สุดคือ ธาตุออกซิเจน ร่างกายเรามีมากที่สุดถึง 65% เราได้ธาตุออกซิเจนจาก 2 ทาง คือ จากการหายใจ และการบริโภคอาหาร

จากการหายใจ เราหายใจเอาก๊าซออกซิเจนจากอากาศเข้าไปทำการฟอกเลือดที่ปอดเพื่อให้ได้เลือดที่บริสุทธิ์ ตรงนี้สำคัญมาก คนจีนโบราณกล่าวกันว่า “เลือดบริสุทธิ์อายุยืนเกินร้อยปีและมีความสุข เลือดไม่บริสุทธิ์อายุสั้นและอยู่อย่างทุกข์ทรมาน” สมองจะขาดออกซิเจนได้ไม่เกิน 1 นาที สมองที่ขาดออกซิเจนแค่ 10-30 วินาที จะเกิดอาการช็อก หากนานเกิน 1-2 นาทีอาจจะเสียชีวิตได้ แต่ถ้าฟื้นขึ้นมาสมองนั้นจะไม่สามารถทำงานได้เป็นปกติอีกต่อไป ก๊าซออกซิเจนจึงสำคัญที่สุด

อีกทางหนึ่งคือ การบริโภคอาหาร เรารับประทานอาหารเพราะต้องการธาตุต่างๆ ซึ่งธาตุออกซิเจนมีอยู่ทั่วไปในอาหารทุกชนิด ในน้ำดื่มธาตุออกซิเจนอยู่ 89% โดยน้ำหนัก ความจริงแล้วร่างการเราไม่ได้ขาดธาตุออกซิเจนเลย แต่ที่เราป่วยกันมากในทุกวันนี้เป็นเพราะเราได้รับธาตุออกซิเจนที่ไม่ บริสุทธิ์ ข้อนี้คือสาเหตุหลักของความเจ็บป่วยเลยทีเดียว สารพิษต่างๆ ที่ปะปนมาในอากาศและอาหารประกอบกับพฤติกรรมในการบริโภคที่เบี่ยงเบนไปจาก ธรรมชาติ จึงทำให้ร่างกายขาดความสมดุล มีผลทำให้เจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนอายุขัยที่แท้จริงหลายสิบปีทีเดียว


 
   
 

คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ทางการแพทย์ได้วิจัยสรุปผลดังนี้

 
    1. ดร.เรดพาธและคณะฯ รายงานผลที่น่าพอใจในการใช้คลอโรฟิลล์รักษาผู้ป่วยจากโรคทางเดินหายใจ 1,000 ราย
    2. มหาวิทยาลัยโลโยล่า ประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มทันตแพทย์ รักษาผู้ป่วยกว่า 1,700 ราย พบว่าคลอโรฟิลล์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากได้
    3. ดร.เคปฮาร์ รายงานผลการใช้คลอโรฟิลล์รักษาผู้ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง พบว่าได้ผลดีในผู้ป่วยที่ไม่ขาดธาตุเหล็กและ
      ธาตุทองแดง
    4. ทันตแพทย์โกลด์เบิร์ก ใช้คลอโรฟิลล์รักษาผู้ป่วย 300 ราย ที่เหงือกเป็นหนอง เลือดออกตามไรฟันและฟันโยก
      ปรากฏว่าได้ผลดีมาก
    5. ในโรงพยาบาลทหาร ดร.โบเวอร์ส ใช้คลอโรฟิลล์ทาแผล ปรากฏว่ากลิ่นเหม็นเน่าของแผลลดลง และอาการอักเสบดีขึ้น จนกระทั่งหายไป
    6. ดร.มอร์แกน ใช้ขี้ผึ้งคลอโรฟิลล์รักษาแผลไฟไหม้ได้ผลดี
    7. ดร.ฟอลล็อค ได้เปรียบเทียบในการรักษาแผลกดทับ (Bedsore) ด้วยยาหลายชนิดพบว่า คลอโรฟิลล์ได้ผลดีที่สุด
    8. ดร.เบอร์กี้ รายงานว่าคลอโรฟิลล์ช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้หลายชนิด ทำให้หัวใจทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น ช่วยลดความดันสูง และกระตุ้นทางเดินอาหารให้ทำงานดีขึ้น
    9. ดร.แครนซ์ วิจัยพบว่าคลอโรฟิลล์บรรเทาอาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบได้ดี และจากรายงานของ ดร.ซามูเอล ในคนไข้ที่มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร 36 ราย ปรากฏว่า ทุกรายมีอาการดีและหายภายใน 12-22 วัน
    10. ค.ศ. 1980 มีรายงานในผู้ป่วยด้วยโรคตับอักเสบเรื้อรังจำนวน 34 ราย โดยการฉีดคลอโรฟิลล์เข้าเส้นเลือด ปรากฏว่าได้ผลดี 23 ราย
    11. ดร.โยชิดาและคณะฯ พบว่าคลอโรฟิลล์บรรเทาอาการของโรคตับอ่อนอักเสบ และรายงานวิจัยอีกหลายคณะในประเทศญี่ปุ่น ในการใช้คลอโรฟิลล์รักษาโรคตับอ่อนอักเสบ
    12. ดร.เบอร์กี้ พิมพ์หนังสือชื่อ “Chlorophyll as a pharmaceutical” กล่าวถึงการใช้คลอโรฟิลล์ได้ผลดีในผู้ป่วย 112 ราย ที่ป่วยด้วยโรคความดันสูง และหลอดเลือดแข็งตัว
    13. ดร.แอนเจโล ศึกษาในคนไข้ 50 ราย ที่ป่วยด้วยโรคความดันสูง พบว่าคลอโรฟิลล์ช่วยลดความดันได้ดี และอาการทั่วไปดีขึ้น
     

บรรณานุกรม /Reference.(อ้างอิง)

  1. Acheson, D.W.et al (1987). Diagnostic delay due to chlorophyll in oral rehydration. Lancet, 1987 Jan 17. (MEDLINE)
  2. Barnard.R.D. et al (1954). Heparinic effects of cupridihydroporphyrins(Water-Soluble Chlorophyll). J. Amer. Pharm. Assoc. 43,110.
  3. Carpenter, E.B.(1949). Clinical experiences with chlorophyll preparations. American Journal of Surgery. 1949:77(2):167-171.
  4. Cheromorsky, S.A. and Segelman, A.B.(1988) Review Article: Biological actives of chlorophyll derivatives. New Jersey Medicine. 1988:85(8):669-673.
  5. Chernomorsky, S.A.(1988) Biological actives of chlorophyll deriva tives. N.J.Med.1988 Aug.(MEDLINE)
  6. Dashwood, R.H. et al (1991). Cremopreventive properties of chlorophyll carcinogenesis.1991:125(5):939-942.
  7. Dunham, W.B. (1954). Differential inhibition of virus hemagglutination by chlorophyllin. Proc. Soc. Exptl. Biol. Med.,87,431.
  8. El-Nakeeb, M.A. and yousef, R.T.(1974). Antimicrobial activity of sodiam copper chlorophyllin, Pharmazie,29,48.
  9. Fukuwa, K. et al (1973). Experimental studies on the gastric ulcer. I. Curative effects of various antiulcerous drugs on an experimental Acetic acid-induced ulcer. Oyo Yakuri, 7 ,1329.
  10. Hashimoto, S. (1962). Influence of chlorophyll on metabolism in Liver. Acta Med. Univ. Kagoshima, 4,1.
  11. Jensen, B. (1984). The healing Power of chlorophyll. Bernard Jensen Enterprises, Escondido, California.
  12. Kelentei, B. et al (1958). Influence of copper chlorophyllin on experimental anemia. Acta Pharm. Hung., 28,176.
  13. Kirkwood. T. (1999). Time of Our Lives. Weidenfeld & Nicolson, London.
  14. Koser, S.A. and Hodges, E.A. (1953). Effects of sodiam copper chlorophyllin on growth and acid production of oral bectaria, J. Infections Diseases, 92, 10.
  15. Maekawa, Y. (1959). Tha effect of chlorophyll on the liver. II. Experiments on animals. Osaka Shiritsu Diagaku Igaku Zasshi,8,1519.
  16. Nakonoin, K. and Utsunomoya, M.(1959). Development of bilateral cortical necrosis of the kidney in the rat with chlorophyllin. Acta Pathol. Japan., 9,490.
  17. Norimatsu, M. (1963). Effect of metal chlorophyllins on blood sugar. Nippon Seirigaku Zasshi, 25,217.
  18. Osawa, Y. (1958). Effect of chlorophyllins on proteolytic enzyme. Botan Mag. (Tokyo) 71,386.
  19. Rudolph, T.M. (1957). Chlorophyll. De Souza Company, Beaumont, California.
  20. Sarkar,D. et al(1994). Chlorophyll and chlorophyllin as modifiers of genotoxic effects. Mutation Research. 1994:318:239-247.
  21. Sato, M. et al(1980). Effect of sodiam copper chlorophyllin on lipid peroxidations. III. The antioxidative activities of the commercial preparations of sodiam copper chlorophyllin. IV. The antioxidative action of copper chlorines. Yakugaku Zasshi, 100,941.
  22. Serling, M.E. (July 1950). Control of body and breath odors with chlorophyll fractions. Veterinary Medicine, Vol 45,291.,23.
  23. Serling, M.E. (April 1952). Clinical use of therapeutic agents containing chlorophyll. Veterinary Medicine, 155.
  24. Smith, L.W. (1944). Chlorophyll : An experimentel study of its water-soluble derivatives. Am. J. of Medical Science, 647.
  25. Young, R.W. et al (1980). Use of Chlorophyllin in the care of geriatric patients. Journal of the American Geriatrics Sociaty. 1980:28(1) : 46-47.
  26. นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล. กินให้แกร่ง, สุขภาพางเลือก 2. สำนักพิมพ์รวมทรรศน์ 2543.
  27. นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล. สุขภาพครอบครัวยุคสบู่แตกฟอง, ธรรมชาติบำบัด วิถีสุขภาพแนวใหม่ เล่ม 13. สำนักพิมพ์รวมทรรศน์ 2541.
  28. นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล. สุขภาพสตรี นม มิตรแท้หรือศรัตรูสุขภาพ, ธรรมชาติบำบัด วิถีสุขภาพแนวใหม่ เล่ม 9. สำนักพิมพ์รวมทรรศน์ 2540.
  29. นพ.วิสัย วงศ์สายปิ่น. สาหร่ายเซลล์เดียว สารอาหารจากแสงตะวัน. สำนักพิมพ์รวมทรรศน์ 2536.

 

     

เหตุผลที่ต้องเลือกคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100% เต็ม

  • ได้คุณภาพจากหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ที่บริสุทธิ์เข้มข้นสูงถึง 100% เต็ม
  • เป็นหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ที่ไม่มีสารตกค้างใดๆ เนื่องจากไม่มีสารประกอบอื่นๆ เจือปน
  • เป็นหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ชนิดละลายในน้ำ (Water Soluble) ไม่ใช่คลอโรฟิลล์ชนิดที่ละลายในน้ำมัน (Oil Soluble) ซึ่งจะมีไขมันสะสมที่ตับ
  • เป็นหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ที่ผ่านกระบวนการกลั่นกรองด้วยกระบวนการฟรีซดราย (Freeze Dried) ถึง 15 ขั้นตอน จึงมั่นใจได้ว่า สะอาด ปลอดภัย และได้สารคลอโรฟิลล์เต็มร้อยแน่นอน
     
รายการแนะนำผลิตภัณฑ์

โปรโมชั่นประจำเดือน ตอบแทนลูกค้า

โทรสอบถามได้เลยค่ะ

โปรโมชั่นเฉพาะ ลูกค้า หรือสมาชิกทั่วไป ที่ไม่ใช่แม่ทีม "เท่านั้น"
ติดต่อสอบถาม : คุณชลดา 0651181716 / 0848695724

     
     
   
 
       
       
       





สงวนลิขสิทธิ์ © chl100.com All Rights Reserved
Tel. 0848695724 Email : teamchl100@gmail.com
Design by : Pana D Papasang 0909927747 @Line : 09187229xx